exness-logo-full

พิพิธภัณฑ์อัสสัมชัญ: แหล่งรวมประวัติศาสตร์และมรดกของโรงเรียนคาทอลิกเก่าแก่

หากคุณเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญหรือมีความสนใจในประวัติศาสตร์ท้องถิ่น คุณต้องไม่พลาดการเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งของเก่าแก่และข้าวของโบราณนับพันชิ้นจากโรงเรียนคาทอลิกแห่งแรกของประเทศไทย แต่ละชิ้นล้วนมีเรื่องราวและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่

ที่มาของพิพิธภัณฑ์อัสสัมชัญ

โรงเรียนอัสสัมชัญก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2428 โดยบาทหลวงเอมีล กอลงแบจากฝรั่งเศส เริ่มแรกเป็นการเปิดสอนหนังสือให้แก่เด็กยากจนและกำพร้าในละแวกวัดสวนท่าน เมื่อจำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้น ท่านจึงได้เรี่ยไรเงินสร้างอาคารเรียนแห่งแรก “ตึกเก่า” ก่อนจะติดต่อขอความช่วยเหลือจากคณะภราดาเซนต์คาเบรียลในฝรั่งเศสให้มารับช่วงงานดูแลโรงเรียนต่อ

ภายหลัง โรงเรียนอัสสัมชัญได้พัฒนาเป็นสถาบันการศึกษาสำหรับชนชั้นกลางและผู้มีฐานะ มีการสอนแบบตะวันตกทั้งภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษ นับเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 130 ปี ที่มีการสั่งสมข้าวของเก่าแก่และเอกสารโบราณไว้เป็นจำนวนมาก

หลังจากโรงเรียนมีอายุครบรอบ 100 ปีในปี 2527 ก็ได้มีการรวบรวมของเหล่านั้นเข้าด้วยกัน จนนำมาสู่การก่อตั้ง “พิพิธภัณฑ์อัสสัมชัญ” ขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2560 โดยทีมงานประกอบด้วยศิษย์เก่าและอาจารย์ที่มุ่งมั่นจะอนุรักษ์และเผยแพร่มรดกของโรงเรียนสู่สาธารณะ

สิ่งของเด่นในพิพิธภัณฑ์

ณ ห้องจัดแสดงชั้น 11 ของอาคารอัสสัมชัญ 2003 ผู้เข้าชมจะได้พบกับข้าวของล้ำค่ามากมายที่สะท้อนเรื่องราวในอดีต เช่น:

  • ต้นฉบับแบบเรียนภาษาไทย “ดรุณศึกษา” ที่มีลายมือแก้ไขของภราดาฮีแลร์ ผู้แต่งเอง
  • นาฬิกาโบราณที่มีสลักตราประทับของพระคาร์ดินัล อันเป็นของขวัญจากสมเด็จพระสันตะปาปา
  • พระธาตุไม้กางเขนจากพระแท่นที่ตรึงพระเยซูแห่งนาซาเร็ธ
  • ศิลาฤกษ์ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จมาทรงวางเอง ใน พ.ศ. 2430
  • สมุดบันทึกและหนังสือเรียนเก่าแก่ของนักเรียน มีทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส

นอกจากนี้ยังมีสิ่งของที่ใช้ในการเรียนการสอนสมัยก่อน เช่น โต๊ะเรียนไม้แบบโบราณ พิมพ์ดีดเก่า เครื่องเล่นเสียงแบบแฮนด์เมด สัตว์สตัฟฟ์สำหรับเรียนชีววิทยา เป็นต้น แสดงให้เห็นวิธีการถ่ายทอดความรู้ในอดีตได้เป็นอย่างดี

ความพิเศษของสิ่งของในพิพิธภัณฑ์

หากสังเกตให้ดี แต่ละชิ้นของวัตถุโบราณในพิพิธภัณฑ์ล้วนมีรายละเอียดและเรื่องราวพิเศษซ่อนอยู่:

  • เคยมีผู้บริจาคใบลานจารพระธรรมคำสอนทางพุทธศาสนาให้โรงเรียนมาก่อน เนื่องจากรู้ว่าภราดาฮีแลร์ชื่นชอบสิ่งเหล่านี้
  • หนังสือเก่ามีลายมือบันทึกว่าเจ้าของเป็นใคร พร้อมรายละเอียดความประพฤติและผลการเรียนของนักเรียนแต่ละคน
  • บางชิ้นได้รับจากศิษย์เก่าทั้งที่มาบริจาคเอง หรือติดตัวมาจากต่างประเทศเมื่อคณะภราดาย้ายมา

แม้บางครั้งเจ้าหน้าที่อาจไม่ทราบที่มาที่แน่ชัด แต่ก็พยายามศึกษาหาข้อมูลเพื่ออธิบายความเป็นมาให้ได้มากที่สุด เพราะทุกชิ้นล้วนบ่งบอกถึงอารยธรรมและวิถีชีวิตของคนในยุคสมัยนั้น

museum-assumption